• Life In China
  • Life In China
    อย่าหยุดล่าตามหาฝัน      ที่ดั้นด้นมาแดนไกล....
    เหนื่อยนักขอพักกายใจ    สู้ดิ้นไปให้ถึงเส้นชัยฝัน....


    ก็แค่เรื่องง่ายๆ ที่ใครๆก็รู้ นึกย้อนไปเมื่อครั้งเรายังเป็นเด็ก เล็กๆ เรามักจะมีจินตนาการของเราเอง ว่า...โตขึ้นเราจะเป็นอะไร? จะทำอะไร? แล้วลองเดินตามจินตนาการนั้นซิ....


              ฉันเป็นเด็กบ้านนอก เกิดและเติบโตในอำเภอเล็กๆ ส่วนหนึ่งของแผนที่ประเทศไทย รู้สึกขอบคุณและภาคภูมิใจทุกครั้งที่นึกถึงที่นั่น พ่อกับแม่ช่างเลือกสรรที่อยู่อบรมบ่มเพาะ เรียนรู้การใช้ชีวิตที่มีคุณภาพได้ดีจริงๆ สอนให้ดิฉันอดทน แข็งแกร่ง ช่วยเหลือตัวเองและพร้อมจะช่วยเหลือผู้อื่นได้ตลอดเวลา เป็นดาวก็ดี เป็นดินก็ได้ ไม่อายใคร  จนวันหนึ่ง เราต้องจากบ้าน  เพื่อการศึกษามุ่งหน้าสู่การพัฒนาที่ดีกว่าในต่างแดน


              ชีวิตน้อยๆของเด็กบ้านดอกคนหนึ่ง ก็ได้มาถึงจุดเปลี่ยนหลังจากที่เขาได้จบการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย  โดยที่เขาเองไม่เคยคิดมาก่อนว่าเขาจะมีโอกาสได้ศึกษาเล่าเรียนในระดับอุดมศึกษา  แต่ในขณะที่ชีวิตเขากำลังตกอยู่วิกฤตที่เขาไม่อยากเจอแล้ว ก็มีโอกาสจากรัฐบาลแผ่นดินไทย  ได้ส่งเอกสารการสอบชิงทุนเรียนต่อทั้งในไทยและต่างประเทศมาให้เขาที่โรงเรียน แล้วในวันเดียวกันนั้นเอง อาจารย์ที่ปรึกษาของเขาก็ได้ส่งตัวเขาไปเข้าสอบแข่งขัน จนได้อันดับหนึ่งของอำเภอ ที่จะได้เป็นตัวแทนทั้งอำเภอ จังหวัดและประเทศไทยเพื่อไปศึกษาต่อปริญญาตรีที่ประเทศจีน  และเขาคนนั้นก็คือดิฉัน นางสาวอนงค์ศรี คณะพรม หรือ วาด อาจารย์ประจำสาขาวิชาภาษาจีน ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด(ปัจจุบัน) เกิดที่จังหวัดหนองคาย ปัจจุบันอาศัยอยู่กับบิดามารดาที่จังหวัดร้อยเอ็ด

              แต่ ณ จุดนี้เองดิฉันก็ได้มีโอกาสมาศึกษาเล่าเรียนที่เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน ประเทศแผ่นดินใหญ่ที่ใครๆหลายคนรู้จักเป็นอย่างดี ในสาขาวิชาการบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ (Administration Management) เป็นเวลาตลอดหลักสูตร 5 ปี  แต่คุณทราบไหมค่ะ ก้าวแรกที่ดิฉันได้เดินทางมาเหยียบแผ่นดินใหญ่ มันทำให้ดิฉันคิดถึงแผ่นดินเมืองแห่งร้อยยิ้ม แผ่นดินสยามของเรา  มันช่างเหงา ช่างหนาว ช่างเหว่หว้า เหมือนคนเป็นใบ้ ภาษาก็คุยกับเขาไม่รู้เรื่อง เพราะครั้งแรกที่มา ดิฉันไม่มีความรู้ทางด้านภาษาจีนเลย ได้แต่พูดอังกฤษ แต่คนจีนเขากลับไม่นิยมพูดอังกฤษกัน เลยทำให้ดิฉันลำบาก จะกิน จะอยู่ จะนอน จะซื้อของ ทุกอย่างล้วนแต่เป็นอุปสรรค ต้องร้องไห้ไม่รู้กี่รอบ แต่ละคืนต้องทนกับความเหน็บหนาวจากหิมะ และความเหงา ดิฉันใช้ชีวิตอยู่แบบนี้เป็นเดือน  ทำให้ดิฉันอยากจะกลับบ้านเรา อยากจะกลับมาอยู่ มากินอาหารอร่อยๆที่เรามีเป็นเอกลักษณ์ของไทยเรา


              แต่รู้ไหมค่ะ หลังจากที่ดิฉันได้มองดูและย้อนถามคำถามกับตัวเองว่า ในเมื่อเรามีโอกาสกว่าหลายๆคนมายืนอยู่จุดนี้ แล้วทำไมเราจะมายอมแพ้ง่ายๆ ทั้งๆที่เรายังไม่ได้เริ่มสู้กับการใช้ชีวิตในเมืองนอกเลย เราจะถอยกลับไปแบบนี้หรอ  คำถามนี้ทำให้ดิฉันกลับมาตอบตัวเองแล้วหันหน้าสู้กับปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างที่ดิฉันศึกษาเล่าเรียน เพื่อนต่างชาติ ที่มาจากทั่วโลกทั้ง ยุโรป แอฟริกาใต้  อเมริกา ลาว เกาหลี ฯลฯ  ต่างๆนานาๆ หลากหลายภาษา หลากหลายวัฒนธรรม หลากหลายการเรียนรู้ การใช้ชีวิตของแต่ละชาติ มันทำให้ดิฉันกล้าและเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของชีวิต ทั้งในห้องเรียนและนอกสถานที่ ทำให้ดิฉันได้เรียนรู้หลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่ดิฉันไม่เคยคิดมาก่อน และสิ่งเหล่านี้ ทำให้ดิฉันพูดภาษาได้มากกว่าสี่ภาษา นอกจากภาษาจีนที่เรียนทุกวันแล้ว  ดิฉันก็ยังเรียนรู้ภาษา โปรตุเกต สเปน และพูดได้แบบไม่อายใครเช่นกัน  นี่คือประสบการณ์ที่เราอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ต่างกัน หลากหลายการเป็นอยู่ ขอเพียงแค่เรารู้จักปรับตัวให้เข้ากับสภาพเหล่านั้นได้ เราก็จะเรียนรู้และมีประสบการณ์ที่ดีๆอย่างที่เราไม่คาดคิดเลยล่ะคะ  และ การเรียนการสอนที่นี่ทำให้ดิฉันนึกถึงเมืองไทย เด็กที่นี่เขาขยันและมุ่งมั่นกับการเรียนมาก มีเวลาว่างเขาจะพากันไปนั่งอ่านหนังสือตามห้องเรียนที่ว่าง หรือแม้แต่สนามหญ้า การใช้ชีวิตที่นี่ก็เร็วซะเหลือเกิน จะทำอะไร จะไปไหนก็เหมือนจังหวะชีวิตมันเร็วขึ้นอีกก้าว ทำให้ดิฉันปรับเปลี่ยนตัวเอง และเก็บเกี่ยวเอาแต่เรื่องดีๆมาเพื่อที่จะมาเผยแพร่ให้กับเด็กไทยเรา ดิฉันใช้ชีวิตที่ปักกิ่งไม่เพียงแต่เรียนอย่างเดียว เวลามีเทศกาลต่างๆ ดิฉันก็เข้าร่วมกิจกรรมและเป็นประธานนักเรียนไทยใน International Business And Economic University,Beijing ,China…ทำให้ดิฉันเรียนรู้และใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าในเมืองแผ่นดินใหญ่


              ดิฉันใช้ชีวิตอยู่แบบนี้เป็นเวลาห้าปีเต็ม และชีวิตของดิฉันได้เดินทางมาถึงจุดสำเร็จจุดแรกของชีวิต ที่ประเทศชาติ พ่อแม่และญาติพี่น้องรอคอยกันมานาน และได้ทำให้พวกเขาได้ภาคภูมิใจในตัวดิฉัน อีกครั้ง ในวันที่ 26JUNE 2010 have graduated of Administration Managements At  International Business And Economic University,Beijing ,China… วันนี้เป็นวันที่ดิฉันภาคภูมิใจและตื่นเต้นมาก ถึงแม้วันแห่งความสำเร็จของดิฉัน ไม่มีพ่อแม่ไปร่วมแสดงความยินดีกับเราได้ เพราระยะทางที่ไกลห่าง ดิฉันเลยรับปริญญาบัตรและทุนเกียรตินิยมอันดับสอง เพียงคนเดียว ถึงแม้จะอิจฉาใครหลายๆคนที่มีพ่อแม่ ญาติพี่น้องไปแสดงความยินดี แต่ดิฉันก็ภาคภูมิใจที่สุดแล้ว  แล้วก็ได้นำความสำเร็จกลับมาให้พ่อแม่และญาติพี่น้องได้ชื่นชมที่ประเทศบ้านเกิดของเรา
    แต่ชีวิตการเดินทางของดิฉันยังไม่หยุดแค่นี้ เพราะชีวิตดิฉันได้เดินมาถึงจุดหักเหอีกครั้ง ในเวลานี้ดิฉันได้รับคำเชิญจากบริษัทเครื่องสำอางยี่ห่อหนึ่งที่ประเทศแอฟริกาใต้ เป็นประเทศเพื่อนสมัยเรียน(คนสเปนค่ะ ) ป.ตรีที่ปักกิ่ง เขาได้เชิญดิฉันไปเป็นผู้จัดการบริษัทเขา ณ เวลานั้นดิฉันลังเลทั้งอยากจะไปและไม่ไป ทั้ง เป็นห่วงพ่อแม่ เพราะตั้งแต่จบม.หก ดิฉันไม่ได้อยู่ดูแลแกเลย แต่สุดท้ายดิฉันเลือกที่จะไปหาประสบการณ์การและเรียนรู้ชีวิตการทำงานในต่างแดนอีกครั้ง  ดิฉันได้ไปทำงานที่นั่น เป็นเวลาหกเดือน ก็ตัดสินใจกลับบ้านเรา ไม่ใช่เพราะงานไม่ดี เงินไม่เดิน แต่เป็นเพราะคิดถึงบ้านมาก เพราะที่นั้นไม่ได้มีเพื่อน ไม่ได้มีใช้ชีวิตที่สุขใจและอบอุ่น เท่าแผ่นดินไทยบ้านเกิดเมืองนอนเรา  ดิฉันเลยตัดสินใจกลับมาอยู่บ้านสักสองเดือน แล้วค่อยไปหางานทำที่กทม.


              ณ เวลานั้น ชีวิตดิฉันก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง วันหนึ่งดิฉันได้เจออาจารย์ที่เคยสอนดิฉันสมัยเรียน ม.ปลาย อาจารย์เขาได้แนะนำให้ดิฉันมาสมัครเป็นอาจารย์สอนภาษาจีนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด  ที่นี่ที่เป็นบ้านหลังที่สองของดิฉัน แต่ ณ เวลานั้น ดิฉันกลัวและไม่กล้าที่จะมาสมัคร เพราะดิฉันไม่เคยคิดว่าจะเป็นครูเลย เลยกลัวว่าเราจะทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่สุดท้ายดิฉันก็เลือกที่จะลองฝึกประสบการณ์การชีวิตให้กับตัวเองอีกครั้ง และสิ่งที่ดิฉันกลัวมันก็ไม่มีอีกเลย ตั้งแต่ได้มีโอกาสเข้ามาสอนจริงๆ และเรียนรู้การทำงานกับคนไทยเรา ที่เต็มไปด้วยน้ำใจและความเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน ทำให้ดิฉันกลัวที่จะก้าวต่อไป  แต่โชคชะตาชีวิต ดิฉันได้ทำงานในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้เพียงแค่ เจ็ด แปดเดือนเท่านั้น ชีวิตดิฉันก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เป็นการเปลี่ยนแปลงที่โชคดีของชีวิต ที่ดิฉันได้รับทุนการศึกษาจากรัฐบาลจีน ให้มาศึกษาต่อระดับปริญญาโท ในสาขาภาษาศาสตร์และการประยุคใช้ภาษาศาสตร์ ( Linguistics And Apply Linguistics ) ที่ประเทศแผ่นดินใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ณ ขณะนี้ ดิฉันก็กำลังทำหน้าที่และเป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ดเรา มาเผยแผร่วัฒนธรรมไทยเและเรียนรู้เอาประสบการณ์ที่ดี เพื่อที่จะกลับไปพัฒนาประเทศชาติเราให้มีความเจริญรุ่งเรืองอีกต่อไป สำหรับชีวิตการเรียนต่อและการใช้ชีวิตในต่างแดนของดิฉันยังคงไม่จบเท่านี้นะคะ ยังคงจะมีต่อฉบับหน้าหลังจากที่ดิฉันได้ทำหน้าที่ในช่วงเวลานี้ถึงจุดหมายปลายทางแล้วจะนำเรื่องดีๆมาเล่าให้ฟังกันใหม่นะคะ หวังว่าเรื่องเล่าของดิฉันคงจะเป็นประโยชน์แก่ทุกคนไม่มากก็น้อยนะคะ  เพราะการเรียนรู้ การใช้ชีวิตในต่างแดนมันก็เป็นไปตามครรลอง (ลองผิดลองถูก) ไปเรื่อยๆ แต่ฉันก็มีกรอบ ของศีลธรรม ครอบอยู่ในทุกๆครรลองของชีวิตและความเป็นคนไทยของเรา ดิฉันเชื่อว่าเป็นสิ่งเดียวที่จะยึดเหนี่ยวให้เราเดินถูกทางในยามที่เราไม่มีพ่อแม่ผู้ปกครองคอยชี้นำ  ตามล่าหาฝันของตัวเองไปเรื่อยๆนะคะ อย่ายอมแพ้ง่ายๆนะคะ  โชคดีกันทุกคนค่ะ 


    By Shakira (อ. อนงค์ศรี)

  • ผู้เขียน : อ.อนงค์ศรี
  • เผยแพร่ : 2013-04-04

© 2022 articles.reru.ac.th ระบบสารสนเทศนำเสนอบทความทางวิชาการ
จัดทำและพัฒนาโดย ศูนย์คอมพิวเตอร์ กองกลาง สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด